สถานที่ชุมนุมของคนตระกูล " ยี่สาร" เชิญเข้ามาพูดคุย หรือฝากข่าวถึงกัน

เวบบอร์ดของคน ตระกูล " ยี่สาร"
ยินดีต้อนรับทุกท่าน

โปรดทราบกฏกติกาการใช้เวบบอร์ดนี้

1.เวบบอร์ดนี้ เป็นของครอบครัวยี่สาร ทุกท่านที่อยู่ในทุกจังหวัด และ ทุกประเทศทั่วโลก ได้ใช้เป็นช่องทาง
และพื้นที่ในการเข้ามาพูดคุย ส่งข่าวคราว ถึงกันอย่างเสรี

2.อนุญาติให้ใช้ภาษาถนัดของครอบครัวได้ แต่ห้ามให้คำหยาบคาย

3.สามารถโพสต์ได้ทั้งภาษาไทย อังกฤษ


4.การพูดคุยโปรดให้ความเคารพความคิดเห็นผู้ อื่นด้วย


5.หากต้องการ โพสต์ข้อความครั้งแรกต้อง
" ลงชื่อเข้าใช้"ก่อน ( อยู่ด้านขวามือ) ต่อไปก็เข้ามาด้วยชื่อนั้น
ไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้ทุกครั้ง


6.เมื่อจะโพสต์ข้อความ ให้กดที่คำว่า
" ความคิดเห็น" ข้าง ล่างของแต่ละบทความ

7.ขณะนี้ได้เพิ่มเวบบอร์ดหน้า 2 แล้ว
หากจะกลับไปหน้า 1 ให้คลิ๊กที่ " บทความที่เก่ากว่า " เมื่อจะมาหน้า 2 ก็คลิ๊กทีี่่
" บทความที่ใหม่กว่า " อยู่ใต้กล่องที่พิมพ์ แสดงความคิดเห็น


ขอให้มีความสุขในการชมบล๊อกนี้ทุกท่าน



วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

จากลุ่มน้ำเพชร สู่ ไหหลำ (ตอนที่ 3 )

 
 
ซึ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับบรรพบุรุษคนไหหลำ คือ คนไหหลำที่อพยพออกไปตั้งหลักแหล่งต่างประเทศนั้น  มักจะเป็นคนทางด้านเหนือของเกาะ  โดยจะเป็นคนจากเมือง ไหเข่า    ตำโก   ดาจิโพ และ  เหวินชาง ( บุ้นเซียว) เมืองตำโก และ ดาจิโพ  เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมือง  ไหเข่า  เดิมเรียกเมือง  เข่งตัว ( ปัจจุบันไม่มีเมืองเข่งตัวแล้ว)   เมื่อเราออกจากเมืองตำโก เมืองที่อยู่ถัดมาคือ ดาจิโพ  เมือง ดาจิโพ เป็นตลาดใหญ่กว่าเมืองตำโก บ้านบรรพบุรุษของย่าลี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆชื่อ ก๊ก เจ็ก ซุ่ย  ตำบลดัวหย่ง


ย่าลี้ได้มาพักอยู่ที่หมู่บ้านนี้  ในช่วงที่ย่าลี้ เดินทางมาคอยสามี(ก๋งกุ๋ย) พร้อมกับลูกชายวัย 3 ขวบ (ด.ช.เซ่ง ) และคลอดลูกสาว (ด.ญ.เลื่อน) ที่นี่ เพราะเป็นหมู่บ้านของคนแซ่พู่ หรือ ผู่ และเป็นบ้านญาติๆกัน   เมื่อรู้ว่าสามีตายอยู่ที่เมืองไทย  ย่าลี้จึงพาลูกทั้งสองเดินทางไปยังเมืองไหเค๊า เพื่อลงเรือกลับ  ช่วงที่รอเรือสำเภามาเมืองไทย  ย่าลี้และลูก 2 คนต้องอาศัยนอนตามฟุตบาทหน้าร้าน ใกล้ๆท่าเรืออยู่นานกว่าจะได้ขึ้นเรือ 
 

ก่อนจะไปไหว้สุสานก๋งของย่าลี้  พวกเราก็แวะกินอาหารกลางวันแบบไหหลำแท้ๆ ที่เมืองดาจิโพ กันก่อน เชิญชมบรรยากาศ 















 หลังจากหลงทางกันพอหอมปากหอมคอ เราก็มาถึงหมู่บ้านของย่าลี้ จนได้ และเริ่มพิธีการไหว้สุสานกันเลย




























ทุกครั้งที่เรามาไหว้ก๋ง เด็กๆในหมู่บ้านซึ่งถือเป็นคนแซ่เดียวกับเรา มักจะวิ่งกันมาทักทาย เพราะรู้ว่าเรามักจะมีขนมมาแจกเสมอๆ





























 เราอยู่ที่หมู่บ้านนี้พักใหญ่ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองดงเกียว เพื่อไปไหว้อาม่าทับทิม ที่ศาลดั้งเดิมแห่งแรกของคนไหหลำ









 ผู้ปกครองศาลเจ้าแม่ทับทิม แห่งเกาะไหหลำ พบกับ 
ผู้ปกครองศาลเจ้าแม่ทับทิมแห่งท่ายาง




จากนั้นเรามุ่งตรงกลับเมืองไหเค๊า เพื่อไปชมท่าเรือเก่า และบ้านเมืองยุค150 ปีที่ผ่านมา  ท่าเรือนี้ ย่าลี้เคยพาลูก 2 คนมาอาศัยนอนตามฟุตบาท ขณะรอเรือสำเภากลับเมืองไทย

 ปัจจุบัน ท่าเรือและตึกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 
กลายเป็นสวนสาธารณะไปแล้ว 


 บ้านเมืองยุคเก่ายังอยู่ แต่ถูกปิดปังไว้ด้วยป้ายโฆษณา และร้านค้ายุคใหม่ไป เหลือบางส่วนที่ยังคงเห็นความเก่าอยู่












 ลุงรัญ ยืนรำลึกถึงครั้งที่เคยอยู่แถวนี้ 













หลังจากเที่ยวกันจนหมดแรง ก็ได้เวลาอาหารเย็น 
เย็นนี้กินแบบไหหลำอีกมื้อ





อิ่มหนำสำราญดี ต่างก็แยกย้ายกันไปช๊อปปิ้ง และเข้านอน 
เพราะวันรุ่งขึ้นต้องเดินทางแต่เช้า 



โปรดชมตอนสุดท้าย ชื่อ " ยี่สาร ตลุยกวางโจว "
ที่นี่เร็วๆนี้

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 เมษายน 2556 เวลา 22:44

    เหตุการณ์ตอนนี้เป็นช่วงสำคัญ คณะร่วมกตัญญูจากเมืองไทยปฏิบัติภารกิจต่างๆได้
    อย่างเรียบร้อยครบถ้วน ทั้งยังสร้างมิตรภาพด้วยหยาดเหงื่อหลายพันหยดซึ่งต้อง
    บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ระหว่างผู้ปกครองศาลเจ้าแม่ทับทิม 2แผ่นดินดังปรากฎ
    ในภาพเป็นที่น่าประทับใจ หลังเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างคณะร่วมกตัญญูก็เดินช็อปปิ้ง
    ในตลาดตามหมู่บ้านอย่างมีความสุข เช้าวันรุ่งขึ้นจะต้องอำลาเกาะไหหลำแล้ว ตอน
    ต่อไปคงมีเรื่องราวดีๆให้ติดตามที่กวางโจว...คนท่าพุ่ง

    ตอบลบ